เหตุการณ์สืบเนื่อง ของ สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ร.ศ. 112

ฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรีไว้ในอารักขา พ.ศ. 2436–2447

ตึกแดงเป็นอาคารที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นในสมัยที่ฝรั่งเศสยึดครองเมืองจันทบุรี ระหว่าง 9 สิงหาคม พ.ศ. 2436 ถึง 8 มกราคม พ.ศ. 2447

ฝรั่งเศสได้ยึดเมืองจันทบุรีตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2436 ถึง 8 มกราคม พ.ศ. 2447 รวมเป็นเวลา 10 ปี 6 เดือน โดยฝรั่งเศสได้สร้างตึกแดงให้เป็นฐานทัพบัญชาการทหารฝรั่งเศส และสร้างคุกขี้ไก่ขึ้นมาเพื่อกักขังนักโทษชาวไทยที่ได้ต่อต้านกับชาวฝรั่งเศส

หลังจากผลของสนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ร.ศ. 122 สยามจึงต้องเอาฝั่งขวาแม่น้ำโขงตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง นครจำปาศักดิ์ จังหวัดตราด และจังหวัดปัจจันตคีรีเขตเข้าแลก เพื่อให้ฝรั่งเศสคืนจันทบุรี ฝรั่งเศสจึงจะยอมถอนทหารออกจากจันทบุรีไปอยู่ตราด

การถอนทหารออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง

แผนที่ทางรัฐศาสตร์ของราชอาณาจักรสยาม: (ซ้าย)​ ก่อนวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 (ขวา)​ หลังสนธิสัญญาในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436

หลังการลงนามในหนังสือสัญญา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 แล้ว เรื่องที่ต้องดำเนินการต่อมาซึ่งสืบเนื่องกับวิกฤตการณ์คือ การถอนทหารออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง การประกาศให้คนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงที่เข้ามาอยู่ทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงกลับถิ่นฐานของตนเอง

การพิจารณาคดีพระยอดเมืองขวาง

การพิจารณาคดีพระยอดเมืองขวาง ในกรณีพระยอดเมืองขวาง (ขำ ยอดเพชร) ซึ่งเป็นข้าหลวงไทยประจำเมืองคำเกิด คำมวน และเป็นผู้นำในการต่อสู้กับทหารฝรั่งเศส เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2436 ทำให้ทหารฝรั่งเศสชื่อ นายโกรส กูแรง กับทหารญวน อีก 12 คนถึงแก่ความตาย (แต่ฝรั่งเศสกล่าวหาว่ามีทหารเสียชีวิตระหว่าง 16 - 24 คน) ฝ่ายไทยเสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ 5 คน ฝรั่งเศสต้องการให้ลงโทษพระยอดเมืองขวาง รัฐบาลไทยจึงตั้ง “ศาลรับสั่งพิเศษ” ขึ้นมาพิจารณาคดีนี้และมีคำตัดสินว่า พระยอดเมืองขวางไม่ผิด เพราะเป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่ ซึ่งทำให้ฝรั่งเศสไม่พอใจจึงเรียกร้องให้ไทยตั้ง “ศาลผสม” ฝรั่งเศส-ไทย ขึ้นทำหน้าที่พิพากษาคดี ทำให้ฝ่ายไทยไม่พอใจมาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถึงกับทรงปรารภว่า “แลไม่เห็นเลยว่าจะจบเพียงใด กว่าจะได้ตัดหัวพระยอด...” ศาลผสมได้ตัดสินคดีในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2437 ว่าพระยอดเมืองขวางมีความผิดให้จำคุกเป็นเวลา 20 ปี พระยอดเมืองขวางถูกจำคุกอยู่จนเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2441 จึงได้รับการปล่อยตัวโดยข้อตกลงระหว่างไทยกับฝรั่งเศส[3]

การเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2440 และ 2450

สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ร.ศ. 122 และ 125